1.ตั้งชื่อร้านให้สะดุดหู หากสังเกตหลาย ๆ ร้านที่ขายอาหารประเภทเดียวกัน ชื่อร้านมักไม่แตกต่างกันมาก แต่ถ้าร้านคุณเป็นร้านใหม่แต่ชื่อร้านไม่โดดเด่นออกมา ก็เป็นเรื่องยากในการสร้างการจดจำ . 2.ตั้ง Concept ร้านให้ชัด เพราะถ้าร้านคุณมีคอนเซ็ปต์ที่ชัดแต่แรก ก็จะยิ่งช่วยสร้างการจดจำ เช่น ร้านคุณมีคอนเซ็ปต์ “วิทยาศาสตร์การกิน” โดยภายในร้านตกแต่งธีมห้องทดลอง ส่วนอุปกรณ์ในการเสิร์ฟอาหาร ก็ดัดแปลงมาจากอุปกรณ์ในห้องทดลองเช่นกัน เห็นไหมว่าแค่นี้ก็สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้แล้ว . 3.ตกแต่งร้านอย่างมีสไตล์ เพราะหากคุณมีการตั้งคอนเซปต์ที่ชัดจากข้อที่ 2 เดี๋ยวไอเดียแต่งร้านก็จะตามมา อีกทั้งยังทำให้ลูกค้ารู้จดจำร้านของคุณได้ทันทีจากคอนเซ็ปต์ที่ชัดและแตกต่างจากคู่แข่ง . 4.จัดทำเมนูให้โดดเด่น คุณเคยเห็นภาพโฆษณาอาหารบางอย่างที่น่าทานมาก ๆ แล้วกดสั่งซื้อโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า? ถ้าหากว่าเคย นั่นก็หมายความว่าภาพอาหารช่วยดึงดูดความสนใจและกระตุ้นความหิวคุณได้เป็นอย่างดี การทำป้ายเมนูอาหารให้โดดเด่น ถึงแม้ลูกค้าอาจไม่ได้อยากมาทานเมนูในป้ายแต่แรก แต่ถ้าภาพสวยงามน่าทาน ใครจะอดใจไม่สั่งได้ล่ะ . 5.งานภาพถ่ายต้องปัง ภาพในเมนูอาหารก็ส่วนหนึ่ง แต่ภาพที่จะใช้ในการสื่อสารทางโซเชียลก็ต้องสวยงามน่าทานควบคู่ไปด้วย เพราะฉะนั้นอย่าได้มองข้ามการจ้างช่างภาพดี ๆ สักคนเพื่อใช้ภาพในการทำโฆษณาร้านคุณด้วยนะ . 6.เฟ้นหาทีมการตลาดคุณภาพ การทำการตลาดไม่ใช่แค่การลด แลก แจก แถม เพราะถ้าทำเช่นนั้นอย่างไร้เหตุผลหรือไม่สนองค์ประกอบอื่น นั่นอาจเป็นการทำร้ายร้านคุณเองก็เป็นได้ เช่น การจัดโปรโมชันลดราคาบ่อย ๆ ลูกค้าอาจสนใจและตื่นเต้นในช่วงแรก และเลือกเข้าร้านคุณเฉพาะวันที่มีโปรโมชันเท่านั้น ทำให้คุณต้องจัดโปรอย่างต่อเนื่อง นานไปถ้ายังคงจัดโปรเดิม ๆ ลูกค้าอาจเกิดความเบื่อหน่ายและมองหาอะไรใหม่ ๆ . 7.ทำคอนเทนต์ให้แตกต่าง ในยุค 5G ไม่ว่าจะแบรนด์หรือร้านอาหารใคร ๆ ก็ทำคอนเทนต์กันทั้งนั้น ถ้าคุณไม่สร้างความแตกต่าง มันก็ยากที่จะเป็นที่น่าสนใจและจดจำ